5 วิธีที่การรวมระบบคลาวด์สามารถปรับปรุงความยืดหยุ่นได้

โหนดต้นทาง: 1865905

ธุรกิจโลจิสติกส์5 วิธีที่การรวมระบบคลาวด์สามารถปรับปรุงความยืดหยุ่นได้

ด้วยความไม่แน่นอนของตลาดในปัจจุบันและการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมต่างๆ การบูรณาการระบบคลาวด์แบบ B2B จึงกลายเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการสร้างห่วงโซ่อุปทานที่ยืดหยุ่น เตรียมพร้อม และตอบสนอง

การระบาดใหญ่ของ Covid-19 เผยให้เห็นถึงความไม่เพียงพอในการมองเห็นห่วงโซ่อุปทาน เนื่องจากข้อบกพร่องของเทคโนโลยีบูรณาการ แม้ว่าธุรกิจ 9 ใน 10 แห่งเชื่อว่าการมองเห็นแบบ end-to-end นั้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง แต่ปัจจุบันมีธุรกิจเพียง 50% เท่านั้นที่สามารถเข้าถึงและใช้ข้อมูลเกี่ยวกับห่วงโซ่อุปทานของตนเพื่อขอรับข้อมูลเชิงลึกทางธุรกิจ

ในขณะเดียวกัน การส่งเสริมอีคอมเมิร์ซได้นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล เมื่อคำนึงถึงสิ่งนี้ เช่นเดียวกับความจำเป็นในการปรับตัวอย่างรวดเร็วต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาด การรวมศูนย์กระบวนการทั้งหมดผ่านการบูรณาการคลาวด์ B2B ถือเป็นสิ่งสำคัญ

เพื่อชี้แจงประโยชน์ของการบูรณาการคลาวด์ B2B ในระบบนิเวศห่วงโซ่อุปทานในปัจจุบัน เหมยลี่ โรบอตส์ อภิปราย 5 วิธีที่การบูรณาการระบบคลาวด์ B2B สามารถช่วยสร้างห่วงโซ่อุปทานที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น:

  1. การเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการข้อมูล
  2. การปรับปรุงการมองเห็นและความคล่องตัวของห่วงโซ่อุปทาน
  3. การป้องกันการหยุดชะงักเพิ่มเติม
  4. การขจัดความท้าทายในการเริ่มต้นใช้งาน
  5. การก่อตั้งความร่วมมือด้านระบบนิเวศที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

ห่วงโซ่อุปทานที่มีความยืดหยุ่นมุ่งเน้นไปที่เป้าหมายสามประการ ได้แก่ การเพิ่มประสิทธิภาพห่วงโซ่อุปทาน อุปทานที่ขับเคลื่อนด้วยอุปสงค์ และการมองเห็นห่วงโซ่อุปทาน บูรณาการระบบคลาวด์ B2B ช่วยให้ธุรกิจสามารถรวมกระบวนการ เครื่องมือ และระบบทั้งหมดไว้ในที่เดียว ด้วยวิธีนี้ พวกเขาจะได้รับภาพรวมทั้งหมดของห่วงโซ่อุปทานทั้งหมดตลอดเวลา ปัจจุบัน ธุรกิจต่างๆ สามารถเข้าใจการดำเนินงานของตนได้ดีขึ้น ทำให้พวกเขาตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลมากขึ้น

คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทความเต็ม

ที่มา: https://www.logisticsbusiness.com/it-in-logistics/5-ways-cloud-integration-can-improve-resilience/

ประทับเวลา:

เพิ่มเติมจาก นิตยสาร Logistics Business®